เบนีโญ ซีเมออน โกฮวงโก อากีโนที่ 3 หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า เบนีโญ อากีโน ที่ 3 เป็นประธานาธิบดีคนที่ 15 ของฟิลิปปินส์ ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2010 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2016 เขาเติบโตมาในครอบครัวที่มีชื่อเสียงและมีอิทธิพลทางการเมืองอย่าง เบนีโญ อากีโน ซีเนียร์ ปู่ของเขาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของฟิลิปปินส์ ในขณะที่พ่อของเขา เบนีโญ อากีโน จูเนียร์ เป็นสมาชิกวุฒิสภา แม่ของเขา คอราซอน อากีโน เป็นประธานาธิบดีคนที่ 11 ของฟิลิปปินส์ จึงไม่น่าแปลกใจถ้าเขาจะกลายมาเป็นนักการเมืองด้วยเช่นกัน
เบนีโญ อากีโน ที่ 3 เกิดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 1960 ในกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์พ่อของเขาคือนาย เบนีโญ อากีโน จูเนียร์ และแม่ของเขาคือ นางคอราซอน อากีโน เขาเป็นบุตรชายคนเดียวจากพี่น้องทั้งหมดห้าคน ในเวลาที่เขาเกิดขณะนั้นพ่อของเขายังเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดแล็ค เขาเริ่มเข้าศึกษาในเมืองเกซอนซิตี้ ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาจนถึงระดับมัธยมและสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาเศรษฐศาสตร์ ณ มหาวิทยาลัยอเทนีโอเดอมะนิลา ในปี 1981 ซึ่งเขาเป็นอดีตลูกศิษย์ของนางกลอเรีย อาร์โรโย ประธานาธิบดีคนที่ 14 ของฟิลิปปินส์
ในสมัยของประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ในกันยายน 1972 พ่อของเขาถูกจับในข้อหาให้ความร่วมมือกับคอมมิวนิสต์ และต้องขึ้นศาลทหารในสิงหาคม 1973 แต่ด้วยแรงกดดันจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ จิมมี คาร์เตอร์ ทำให้พ่อของเขาได้รับอนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศ ในเดือนพฤษภาคม 1980 เพื่อเข้ารับการผ่าตัดหัวใจที่สหรัฐอเมริกา และได้รับการลี้ภัยเป็นเวลา 3 ปี โดยเข้ายังคงศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยอเทนีโอเดอมะนิลา และหลังจากสำเร็จการศึกษาเขาก็ย้ายมาอยู่กับครอบครัวที่สหรัฐอเมริกา ในวันที่ 21 สิงหาคม 1983 พ่อของเขาถูกลอบสังหารขณะลี้ภัย เขาและครอบครัวกลับมาที่ประเทศฟิลิปปินส์ โดยเขาเข้าทำงานในหลายบริษัทอย่าง ในช่วงปี 1986 ถึงปี 1992 เขาดำรงตำแหน่งรองประธานบริษัท แอนโทลิน โอเรตา จูเนียร์ ซึ่งมีลุงของเขาเป็นประธานบริษัท
ช่วงปี 1993 ถึงปี 1996 อากีโนที่สามเป็นผู้ช่วยผู้บริหารในบริษัทแซนเทิล อาซูคาแรร่า เดอ ทาร์แล็ค 'หลังจากนั้นเขาเป็นผู้จัดการฝ่ายบริการจนถึงปี 1998 กระทั่งเขาได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของทาร์แล็ค ในปีเดียวกัน ในช่วงที่เขาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขามุ่งเน้นไปในการพยามแก้ตัวบทกฎหมาย ซึ่งเขามองว่ากฎหมายที่มีอยู่นั้นมากเกินความจำเป็น และไม่มีการกระจายอำนาจอย่างเท่าเทียม รวมทั้งประชาชนยังไม่ได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายมากเท่าที่ควร ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2004 เขาเข้ารับตำแหน่งรองประธานสภาลูซอน แต่เขาก็ได้ละทิ้งตำแหน่งและไปเป็นประธานพรรคเสรีนิยม (Liberal Party) ในการกดดันให้นางกลอเรีย อาร์โรโย ลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี จากการกล่าวเธอในข้อหาคอร์รัปชั่น ต่อมาในเดือนพฤษภาคม 2007 เขาได้รับเลือกเป็นวุฒิสมาชิกและเริ่มแก้ไขรัฐธรรมนูญ 1986
ต่อมาในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2008 พรรคเสรีนิยมได้เลือกตั้งมาร์ โรซาส เป็นประธานของพรรคเสรีนิยมและเป็นตัวแทนพรรคลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่จะเกิดขึ้นในการเลือกตั้งปี 2010 แต่วันที่ 27 สิงหาคม 2009 การรณรงค์ทั่วประเทศจากทนายความและนักเคลื่อนไหวเพื่อรวบรวมลายเซ็นนับล้านที่สนับสนุนให้อากีโนประธานาธิบดีของเขา จนวันที่ 9 กันยายน 2009 เบนีโญ อากีโน ที่ 3 ได้เป็นเป็นตัวแทนพรรคลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี จากนั้นในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2010 และวันที่ 9 มิถุนายน 2010 รัฐสภาฟิลิปปินส์ประกาศว่าเขาเป็นผู้ได้รับลือกเป็นประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์ และข้าดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 มิถุนายน 2010
เขาย้ายห้องทำงานของประธานาธิบดีจากทำเนียบรัฐบาลมาเป็น Bahay Pangarap (หมายถึงบ้านในฝัน) ที่ตั้งอยู่ในสวนมาลาชานัง และยังคงใช้รถของเขาเองแทนรถประจำตำแหน่ง นอกจากนี้ ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2010 ที่เมืองเกซอนซิตี้ เขาประกาศให้ใช้ระบบการศึกษาแบบ K-12 เช่นเดียวกับสหรัฐฯ แคนาดาและออสเตรเลีย ต่อมาในวันที่ 16 สิงหาคม 2010 เขามีเว็บไซต์สำหรับแสดงความคิดเห็นและร้องทุกข์จากประชาชนต่อประธานาธิบดีโดยตรง จากนั้นในเดือนกันยายน 2010 เขาไปเยือนสหรัฐฯ กับคณะผู้แทน เพื่อเซ็นสัญญากับบริษัท มิลเลนเนียม ชาลเลนจ์ คอร์ปอเรชั่น เพื่อเงินกู้ 434 ล้านดอลลาร์ สำหรับพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เศรษฐกิจและขจัดความยากจน ต่อมาตุลาคม 2010 เขาไปเยือนเวียดนามเพื่อลงนามในข้อตกลง และส่งมอบเงินทุนสำหรับจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน
ช่วงพายุไต้ฝุ่นโยลันดาในเดือนพฤศจิกายน 2013 ทำเขาและรัฐบาลถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยล่าช้า และเขาถูกกล่าวหาว่าเลี่ยงความรับผิดชอบสำหรับการตายของทหารหน่วยพิเศษ 44 คนที่ปฏิบัติการล้มเหลว หรือที่เรียกว่า การสังหารหมู่มามาซาปาโน “นอยนอยยิ้ง”เป็นการประท้วงในรูปแบบของศัพท์ที่นักวิจารณ์ใช้ตั้งคำถามกับการทำงานที่เขานิ่งเฉยต่อภัยพิบัติ และราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น รวมทั้งเป็นการวิจารณ์ว่าเขาเกียจคร้าน ด้วยการล่อเลียนชื่อเล่นของเขา
เบนีโญ อากีโน ที่ 3 ประธานาธิบดีคนที่ 15 ของฟิลิปปินส์ เขาเกิดและเติบโตมาในตระกูลการเมือง แม้หลังเขาเรียนจบจะเข้าทำงานในหลายบริษัท แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็หันหน้าเข้าสู่การเมือง และพยายามปรับเปลี่ยนให้ตนเองสามารถเป็นประธานาธิบดีประชาชนเข้าถึงได้ง่าย เขาล่งจากตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 30 มิถุนายน 2016
ฐิติพงศ์ มาคง
กรกฎาคม 2559
เอกสารสำหรับค้นคว้าเพิ่มเติม
Benigno Aquino III. Search on 17 July 2016, Retrieved from Wikipedia: https://en.wikipedia.org/wiki
/Benigno_Aquino_III.
Senate. Senator Benigno S. Aquino III. [Online]. Search on 17 July 2016, Retrieved from: https://
https://www.senate.gov.ph/senators/sen_bio/aquino_noynoy_bio.asp.
Noynoy-Aquino.com " Aquino Biography. [Online]. Search on 17 July 2016, Retrieved from:
http://www.noynoy-aquino.com/about.htm.
The famous people. Benigno Aquino III Biography. [Online]. Search on 17 July 2016. Retrieved from
: http://www.thefamouspeople.com/profiles/benigno-6896.php.
คาริม รัสลาน. (2558, พฤศจิกายน 17). นอยนอย อากีโน: ผู้นำคนสำคัญที่สุดแห่งอาเซียน. [ออนไลน์]. สืบค้นจาก:
http://thaipublica.org/2015/11/noynoy-aquino/.