นายอันวาร์ อิบราฮิม (Anwar Ibrahim) เป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรีที่เคยถูกตัดสินจำคุกในข้อหารักร่วมเพศ เขาคือคนที่ทำงานใกล้ชิดกับอดีตนายกรัฐมนตรี ดร.มหาธีร์ มูฮัมหมัด แต่ในภายหลังเกิดความขัดแย้งกัน ทำให้เขากลายมาเป็นนักวิจารณ์คนสำคัญเกี่ยวกับรัฐบาลมหาธีร์ และยังเป็นรวบรวมพรรคฝ่ายค้าน (Pekatan Rakyat) อีกด้วย

ดาโต๊ะ ซรี อันวาร์ บิน อิบราฮิม เกิดวันที่ 10 สิงหาคม ค.ศ.1947 ในรัฐปีนัง ปัจจุบันอายุ 69 ปี พ่อของเขาทำงานในโรงพยาบาล ส่วนแม่เป็นแม่บ้าน เขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมาลายา และสมรสกับนางวันอาซีซะห์ วันอิสมาอิล นายอันวาร์เป็นมุสลิมที่ค่อนข้างเคร่งครัด ในอดีตเขาเป็นประธานขบวนการเยาวชนอิสลามของมาเลเซีย (Angkatan Belia Islam Malaysia; ABIM) ในปี ค.ศ. 1982 เขาเริ่มลงเล่นการเมืองโดยสมัครเข้าเป็นสมาชิกของพรรคอัมโน เขาก้าวหน้าได้อย่ารวดเร็วในแวดวงการเมือง โดยเฉพาะในพรรคร่วมรัฐบาล (Barisan Nasional) ซึ่งเขาเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีหลายกระทรวง ต่อมาในปี ค.ศ. 1993 นายอันวาร์ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในสมัยของอดีตนายกรัฐมนตรี ดร. มหาธีร์ โมฮัมหมัด แต่ด้วยปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจทำให้ทั้งคู่มาถึงจุดแตกหัก เนื่องจากมีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน เป็นเหตุให้นายอันวาร์ต้องถูกปลดจากตำแหน่งในเดือนกันยายน ปี ค.ศ. 1998 ซึ่งส่งผลให้ชีวิตของนายอันวาร์ต้องเผชิญกับมรสุมครั้งใหญ่ เช่น การตั้งข้อหาคอร์รัปชั่น จะต้องถูกจำคุกหกปี  และถูกตั้งข้อหารักร่วมเพศถึงสองครั้ง กรณีนี้ถูกมองว่ามันเกิดจากแรงจูงใจทางการเมือง

ในช่วงวิกฤตการเงินเอเชียปี 1997 นายอันวาร์ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เขาพยายามลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลโดยตัดเงินเดือนรัฐมนตรี และตัดบัญชีโครงการที่สำคัญอย่าง โครงการขนาดใหญ่ แม้จะเป็นการวางรากฐานที่สำคัญในยุทธศาสตร์การพัฒนาของดร.มหาธีร์ถูกตัดทอนงบประมาณด้วย แม้ว่าบริษัทของมาเลเซียจำนวนมากจะต้องเผชิญกับการล้มละลาย นายอันวาร์บอกว่ารัฐบาลจะไม่เข้าไปยุ่ง โดยนายอันวาร์เลือกสนับสนุนวิธีการตลาดเสรีในการเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ รวมถึงการลงทุนจากต่างประเทศ และการเปิดเสรีการค้า ทำให้เกิดความขัดแย้งกับอดีตนายกรัฐมตรีมหาธีร์ ในที่ประชุมใหญ่ของแห่งชาติมีการแจกหนังสือ 50 Dalil Kenapa Anwar Tidak Boleh Jadi PM ที่เขียนขึ้นโดย คาลิด จาฟรี อดีตบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์อูตูซานมาเลเซียซึ่งเป็นของรัฐบาล และอดีตบรรณาธิการ ฮาเรียนเนชันแนล มีเนื้อหากล่าวโทษนายอันวาร์ว่าทุจริตคอร์รัปชัน นายอันวาร์จึงเข้ายื่นขอคำสั่งจากศาลห้ามมิให้จำหน่ายหนังสืออีก และดำเนินคดีต่อผู้เขียนในข้อหาหมิ่นประมาท แต่กระนั้นยังมีอีกข้อกล่าวหาหนึ่งที่กล่าวว่านายอันวาร์เป็นพวกรักร่วมเพศ ตำรวจได้ตรวจสอบความถูกต้องของข้อกล่าวหานี้ จึงทำให้นายอันวาร์ถูกแจ้งข้อหาร่วมเพศทางทวารหนัก โดยในปี ค.ศ. 1999 เขาถูกตัดสินจำคุกหกปีด้วยข้อหาทุจริต ขณะเดียวกันนายอันวาร์ก็เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อนายกรัฐมนตรีมหาธีร์ มูฮัมหมัด ในข้อหาหมิ่นประมาทจากการกล่าวหาว่านายอันวาร์ประพฤติผิดศีลธรรมและเรียกนายอันวาร์ว่าเป็นพวกรักร่วมเพศ ในปี ค.ศ.2000 เขาถูกตัดสินจำคุกอีกเก้าปีด้วยข้อหาร่วมเพศทางทวารหนักกับคนขับรถของภรรยา ในระหว่างที่เขาถูกคุมขังภายใต้การดูแลของตำรวจ นายอันวาร์ถูกทุบตีโดย เราะฮิม นูร์ นายตำรวจคนหนึ่ง ต่อมาในภายหลังนายเราะฮิมถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงฐานทำร้ายร่างกาย ต้องถูกจำคุกสองเดือน ในปีเดียวกันนั้นนายตำรวจคนดังกล่าวได้ออกมาขอโทษอย่างเป็นทางการต่อนายอันวาร์ และชดใช้ค่าเสียหายให้โดยไม่มีการระบุจำนวนเงินที่แน่ชัด

ในปี 2004 ศาลตัดสินยกคำร้อง เขาจึงถูกปล่อยตัวออกมา เขากลับมาบนเส้นทางการเมืองอีกครั้งในฐานะของผู้นำฝ่ายค้าน แต่ในวันที่ 29 มิถุนายน 2008 ผู้ร่วมงานของนายอันวาร์ยื่นฟ้องต่อตำรวจว่าเขาถูกนายอันวาร์ร่วมเพศทางทวารหนัก นายอันวาร์โต้แย้งว่าข้อกล่าวหานี้เป็นความพยายามปลดเขาจากตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านหลังเขาได้รับการสนับสนุนเพิ่มขึ้น และได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งซ่อมครั้งที่ผ่านมา และในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2013 เขาและพรรคร่วมฝ่ายค้าน (Pakatan Rakyat) สามารถชิงที่นั่งในสภาได้สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ รวมทั้งสิ้น 89 ที่นั่ง จากทั้งหมด 222 ที่นั่ง เขาจึงยืนยันความบริสุทธิ์ด้วยการอ้างหลักฐานในแบบรายงานทางการแพทย์ ศาลจึงตัดสินยกฟ้องคดีในวันที่ 9 มกราคม 2012 เพราะผู้พิพากษาเห็นว่าหลักฐาน DNA ที่อัยการส่งมานั้นไม่สามารถเชื่อถือได้ แต่ในวันที่ 4 มีนาคม 2014 ศาลอุทธรณ์กลับคำตัดสินให้ นายอันวาร์ อิบราฮิม จำคุกห้าปี แต่ก็ยังได้รับการประกันตัวระหว่างการอุทธรณ์คำตัดสิน ฮิวแมนไรท์วอตช์(Human Rights Watch) และคณะกรรมการนักนิติศาสตร์ระหว่างประเทศได้กล่าวว่ารัฐบาลมาเลเซียเป็นผู้แทรกแซงตุลาการ ต่อมาในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2015 ศาลกลางมาเลเซียสนับสนุนคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์และยืนยันโทษจำคุกห้าปี

คำพิพากษาของศาลครั้งนั้นทำให้นายอันวาร์ต้องถูกจำคุกนานห้าปี และตัดสิทธิ์ทางการเมืองอีกห้าปี นับเป็นการปิดฉากการต่อสู้ทางการเมืองและทางกฎหมาย เนื่องจากนายอันวาร์ไม่สามารถนำพรรคฝ่ายค้านเข้าสู่การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2018 ได้ แต่หลังจากนั้นในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2015  ครอบครัวของนายอันวาร์ พยายามหาทางยื่นฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ด้าน นูรูล นูฮา อันวาร์ บุตรสาวคนที่สองของนายอันวาร์ ได้ออกแถลงการณ์ว่า          คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์เป็นการตัดสินที่ผิดพลาด ต่อมาในวันเสาร์ที่ 7  มีนาคม 2015  ได้มีกลุ่มผู้สนับสนุนนายอันวาร์ มารวมตัวเดินขบวนประท้วงในย่านดาวทาวน์ของกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซีย ซึ่งเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัก ลาออกจากตำแหน่ง และเรียกร้องให้ปล่อยตัวนายอันวาร์ออกจากเรือนจำ ซึ่งก็เป็นไปตามที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ว่าอาจเกิดการต่อต้านจากประชาชน

บนเส้นทางชีวิตทางการเมืองของ นายอันวาร์ อิบราฮิม เต็มไปด้วยอุปสรรคที่เข้ามาท้าทาย ด้วยวิธีคิดและการแก้ปัญหาที่แตกต่างกันกับอดีตนายกรัฐมนตรี ดร.มหาธีร์ มูฮัมหมัด ทำให้ชีวิตเขาต้องเจอกับมรสุมครั้งใหญ่ จากข้อกล่าวหาต่างๆ โดยเฉพาะข้อกล่าวหาเกี่ยวกับรักร่วมเพศ แต่อย่างไรก็ตามเขายังคงมีบทบาทสำคัญในการตั้งพรรคแนวร่วมฝ่ายค้าน และได้รับคะแนนนิยมมากขึ้น ทั้งยังคอยวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลอยู่เสมอ

มนัสวี นาคสุวรรณ์

กรกฎาคม 2559

เอกสารสำหรับค้นคว้าเพิ่มเติม

Anwar Ibrahim. Search on 8 July 2016, Retrieved from Wikipedia: https://en.wikipedia.org/wiki/Anwar_Ibrahim.

Profile: Anwar Ibrahim. (2015, February 10). Search on 8 July 2016, Retrieved from: http://

www.bbc.com/news/world-asia-16440290.

ประชาไทย. (2015, กุมภาพันธ์ 10). ศาลมาเลเซียจำคุกอันวาร์ อิบราฮิม 5 ปี – ในข้อหาร่วมเพศกับชาย. [ออนไลน์].

สืบค้นจาก: http://prachatai.com/journal/2015/02/57866.