เมื่อไม่นานมานี้ จูเลีย เปเรซ (Julia Perez) กลายเป็นดาวเด่นเมื่อถูกนำไปเป็นประเด็นถกเถียงกันอย่างเผ็ดร้อนในสังคมอินโดนีเซีย  เธอเป็นนักร้องเพลงดังดุต นักแสดง นางแบบ พิธีกรรายการโทรทัศน์ และอดีตผู้สมัครลงเลือกตั้งทางการเมือง  นอกจากนี้ การแต่งกายและภาพถ่ายสุดเซ็กซี่ของเธอ ทำให้ถูกขนานนามว่าเป็นเซ็กส์บอมบ์และได้รับรางวัลศิลปินหญิงสุดเซ็กซี่ถึง 2 ครั้ง

          จูเลีย เปเรซ หรือที่ผู้คนชอบเรียกสั้นๆ ว่า จูเป (Jupe) มีชื่อจริงว่า จูลี รัชมาวาตี (Juli Rachmawati) เกิดเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ปี 1980 ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย  ชีวิตแรกเริ่มของจูเลีย เปเรซ ไม่ได้ราบรื่นเลิศหรูอย่างที่ใครๆ คิด เธอเริ่มทำงานที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง แต่ได้ลาออกหลังได้รับทุนไปเรียนต่อที่เนเธอร์แลนด์  ขณะใช้ชีวิตที่นั่นเธอก็ได้แต่งงานกับหนุ่มฝรั่งเศสนามว่า ดาเมียน เปเรซ (Damian Perez) ผู้ซึ่งผลักดันให้เธอย่างเท้าเข้าสู่วงการถ่ายแบบกับนิตยสารแนวเซ็กซี่ระดับโลก FHM และ Maxim ที่ฝรั่งเศส  การมีภาพอยู่บนนิตยสารระดับโลกดังกล่าว ส่งผลให้เธอได้รับการจัดอันดับติดหนึ่งใน 100 หญิงสาวเซ็กซี่ที่สุดในโลกประจำปี 2010

          จากจุดเริ่มต้นดังกล่าว จูเลีย เปเรซก็มีชื่อเสียงโด่งดังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งได้รับการชักชวนให้เข้าสู่วงการความบันเทิงของอินโดนีเซีย ทั้งในแวดวงละครโทรทัศน์และภาพยนตร์  ต่อมาในเดือนเมษายน ปี 2008 จูเลียเปเรซได้ประกาศตัวเข้าสู่วงการเพลงดังดุต ซึ่งเป็นแนวเพลงที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศอินโดนีเซีย  อัลบั้มเพลงดังดุตอย่างเป็นทางการอัลบั้มแรกของเธอคือ Kamasutra (2008) พร้อมกับเรียกเสียงฮือฮาด้วยการประกาศว่าหากใครที่ซื้ออัลบั้มนี้จะได้รับถุงยางอนามัยเป็นของแถม  เพลงหลายเพลงในอัลบั้มนี้ยังสร้างกระแสอื้อฉาวต่อเนื่องยาวนานในอินโดนีเซีย  ในด้านหนึ่งกระแสอันร้อนแรงนี้ ทำให้เธอได้รับแรงสนับสนุนจากแฟนเพลงและผู้ติดตามผลงานเธอเพิ่มสูงขึ้น แต่อีกด้านหนึ่งเนื้อหาของเพลงและท่าเต้นของเธอ ก็ถูกวิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนว่าหมิ่นเหม่และไม่เคารพศาสนาอิสลาม  เนื่องจากเนื้อร้องและท่าเต้นอันส่อไปในทางยั่วยวนกามารมณ์

          ไม่ว่าจะเกิดกระแสต่อต้านวิพากษ์วิจารณ์เพลงและการแสดงของจูเลีย เปเรซเพิ่มสูงขึ้นเพียงใด แต่เธอก็หาได้สนใจกับการต่อต้านดังกล่าวนั้นมากนัก  ในทางตรงกันข้าม เธอกลับใช้บทเพลงที่มีเนื้อหาสองแง่สองง่ามอย่างเพลง Belah Duren (2008) ซึ่งเป็นศัพท์แสลงในภาษาอินโดนีเซีย หมายถึงการถ่างขาออกเพื่อร่วมเพศ และนำเสนอมิวสิควีดีโอด้วยท่าเต้นยั่วยวนเร่าร้อนตอบโต้เสียงวิจารณ์เหล่านั้น  แต่เพลงที่กล่าวได้ว่าอื้อฉาวที่สุดของจูเลีย เปเรซ คือเพลง Jupe Paling Suka 69 (2011) อันแปลว่าจูเปชอบการร่วมเพศแบบท่า 69 ที่สุด  อย่างไรก็ดี ความอื้อฉาวของเพลงนี้ ท้ายที่สุดก็นำไปสู่การห้ามเผยแพร่ออกสื่อโทรทัศน์โดยคณะกรรมการกิจการแพร่ภาพและกระจายเสียงส่วนภูมิภาคของอินโดนีเซีย ด้วยข้อหาที่ว่าเพลงมีเนื้อหาหมิ่นเหม่สองแง่สองง่าม รวมทั้งบั่นบอนบุคลิกภาพและศีลธรรมอันดีของเยาวชน  เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้จูเลีย เปเรซถึงกับออกมาตัดพ้อว่าเธอกลายเป็นราชินีแห่งการโดนแบนเสียแล้ว

          หลังจากออกอัลบั้มแรกใน ปี 2008 จูเลีย เปเรซ ไม่ได้มีผลงานเพลงดังดุตมากนัก  แต่เธอก็ยังมีบทบาทเด่นอยู่ในแวดวงความบันเทิง ทั้งละครโทรทัศน์และภาพยนตร์  โดยเฉพาะภาพยนตร์ที่เธอแสดงไปมากกว่า 20 เรื่อง เช่น Hantu Jamu Gendong (2009) Arwah Goyang Jupe-Depe (2011) Bangkit Dari Kubur (2012) และMain Dukun (2014) เป็นต้น  จากบทบาทการแสดงภาพยนตร์ดังกล่าว ทำให้เธอได้รับรางวัลดารานำหญิงยอดเยี่ยมในเทศกาลภาพยนตร์ที่เมืองบันดุงเมื่อปี 2013  อย่างไรก็ตาม ในปี 2016      จูเลีย เปเรซ ก็หวนกลับมาทำเพลงดังดุตอีกครั้งหลังจากก่อนหน้านี้ออกมาเพียงปีละเพลงสองเพลง  แม้อัลบั้ม Aku Rapopo (2016) เป็นการนำเพลงเก่าจำนวนหนึ่งมาเรียบเรียงใหม่ แต่ยังคงรักษาสัญลักษณ์อันโดดเด่นของเพลงดังดุตร่วมสมัยที่ได้รับความนิยมอย่างมาก นั่นคือเนื้อหาเพลงส่อไปในเรื่องสองแง่สองง่ามและท่าเต้นอันเย้ายวนอวดเรือนร่าง  ด้วยเหตุนี้ เธอจึงถูกโจมตีจากองค์กรมุสลิมภายในประเทศ ในข้อหาที่ว่าประพฤติไม่เหมาะสมในสังคมมุสลิม และเพลงบางเพลงนำมาสู่การบอยคอตห้ามมิให้เผยแพร่  แต่จูเลีย เปเรซก็ตอบโต้ว่าเพลงของเธอไม่ได้หยาบคายและต้องการสร้างความสุขแก่ผู้ชมเท่านั้น 

          การปรากฏตัวของจูเลีย เปเรซ แสดงให้เห็นพลวัตของสังคมการเมืองและวัฒนธรรมในอินโดนีเซีย หลังยุคระเบียบใหม่  สิทธิเสรีภาพซึ่งเคยถูกปิดกั้นจากพื้นที่สังคมการเมืองนั้น ก็ค่อยๆ เปิดกว้างมากยิ่งขึ้น  ขณะเดียวกัน กลุ่มเคลื่อนไหวทางสังคมการเมืองก็ได้ก้าวขึ้นมาอีกด้วย  โดยเฉพาะกลุ่มอิสลามเคร่งคัมภีร์ที่ออกมาประณามจูเลีย เปเรซ ซึ่งนำไปสู่การถกเถียงประเด็นใหญ่ๆ ในสังคมอินโดนีเซียกันอย่างเผ็ดร้อน เช่น เสรีภาพ ศีลธรรม ศาสนา เพศ และมรดกยุคเผด็จการ เป็นต้น  อย่างไรก็ตาม กระบวนการที่จะก้าวไปสู่ประเทศที่มีเกียรติภูมิหลุดพ้นจากพิษร้ายเผด็จการ สังคมจำเป็นต้องผ่านการลองผิดลองถูกและการวิวาทะอย่างเข้มข้น  เพลงดังดุตก็เป็นพื้นที่อันก่อให้เกิดการตั้งคำถามและการถกเถียงอย่างมากที่สุด และนักร้องอย่างจูเลีย เปเรซที่ยืนยันจะธำรงแนวทางสุดเซ็กซี่เร้าใจในสังคมมุสลิมขนาดใหญ่และในฐานะที่เธอเป็นมุสลิมเองด้วย มีบทบาทสำคัญในการจุดประเด็นที่นำไปสู่การถกเถียงกัน

บัญชา ราชมณี

มิถุนายน 2559

เอกสารสำหรับค้นคว้าเพิ่มเติม

Collective, B. L. P. (1987). Lesbian Psychologies: Explorations and Challenges. USA: University of Illinois Press.

Perez, J. (2014). JuPe: My Uncut Story. Indonesia: EnterMedia.

Salim, D. P. (2015). The Transnational and the Local in the Politics of Islam: The Case of West Sumatra, Indonsia. Switzerland: Springer.

Taggart, J. M. (1990). Enchanted Maidens: Gender Relations in Spanish Folktales of Courtship and Marria. New Jersey: Princeton University Press.