วิชัย เขียวสะหว่าง เป็นอาชญากรค้าสัตว์ป่ารายใหญ่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นิสัยส่วนตัวมีความโหดเหี้ยม ดุดัน และแข็งกร้าว โดยเขามีฉายาว่า “พาโบล เอสโคบาร์แห่งการค้าสัตว์ป่า” แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของเขาซึ่งเทียบได้กับพาโบล เอสโคบาร์ ผู้เป็นเจ้าพ่อโคเคนรายใหญ่ที่สุดของโคลัมเบีย
วิชัยอาศัยอยู่ในเขตอำเภอบริคำไชย นครเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นอดีตข้าราชการที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับเจ้าหน้าที่รัฐ นักการเมือง และสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ลาว ทำให้เขาได้รับการคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่รัฐ แม้เขาจะกระทำเรื่องผิดกฎหมายก็ตาม นอกจากนี้ยังมีหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เขาใช้เป็นที่ลี้ภัย อาทิ เมียนมาร์ จีน ไทย กัมพูชา และเวียดนาม แม้จะมีหลักฐานมากมายที่เกี่ยวข้องกับการค้าสัตว์ป่าของนายวิชัย เช่น การส่งงาช้างและนอแรดจากเจ้าหน้าที่ของเคนยาในปี 2009 และการปลอมแปลงเอกสารของรัฐ ถึงแม้เขาจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายแต่เจ้าหน้าที่รัฐมักจะทำลายหลักฐานเพื่อปกป้องเขาอยู่เสมอ
นายวิชัย เขียวสะหว่าง เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท ไซสะหว่าง เทรดดิ้ง จำกัด เป็นบริษัทส่งออกสินค้าของลาว เขาใช้ธุรกิจดังกล่าวเป็นฉากบังหน้า โดยมีเบื้องหลังเป็นค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย มีเครือข่ายตั้งแต่ทวีปเอเชียไปจนถึงแอฟริกา แม้ว่าจะมีการตรวจพบการลักลอบนำเข้าและส่งออกสัตว์ป่า แต่ก็ไม่เคยจับกุมตัวนายวิชัยได้สำเร็จ ทั้งนี้สมาชิกของเครือข่ายไซสะหว่างอาศัยกระจายอยู่หลายแห่ง ทั้งในประเทศลาว ไทย มาเลเซีย เวียดนาม จีน แอฟริกาใต้ และโมซัมบิก
เครือข่ายไซสะหว่างเป็นองค์กรที่มีการแบ่งงานกันทำอย่างชัดเจน เริ่มตั้งแต่นายทุน ผู้กว้านซื้อของ ผู้ขนส่ง ผู้ลาดตระเวน ผู้ประสานงาน และผู้ส่งออก โดยมีนายวิชัยเป็นนายทุนรับใบสั่งจากลูกค้าชาวจีน และเวียดนาม ก่อนจะสั่งงานไปยังผู้กว้านซื้อเพื่อจัดหาของ คือ นอแรด ก่อนจะส่งมอบให้นายฟาม กว๋าง ล็อค อายุประมาณ 45 ปี สัญชาติเวียดนาม เป็นผู้รับส่งทางเครื่องบิน สำหรับชุดลาดตระเวนและชุดประสานงานเครือข่ายนี้มักจะมีการติดสินบนให้เจ้าหน้าที่รัฐคอยอำนวยความสะดวก จึงสามารถผ่านด่านตรวจได้โดยง่าย ก่อนจะส่งมอบสินค้าให้กับผู้ส่งออก เมื่อถึงประเทศปลายทางจะมีชุดลาดตระเวนและประสานงานอีกหนึ่งชุดเป็นผู้อำนวยความสะดวก
ลูกค้าส่วนใหญ่ของเครือข่ายไซสะหว่างมักเป็นคนจากประเทศโลกที่สาม และประเทศจีน ซึ่งมีความเชื่อว่านอแรดคือยาบำรุงร่างกายและเพิ่มสมรรถภาพทางเพศให้อวัยวะเพศชายแข็งตัวดี โดยเฉพาะกลุ่มเศรษฐีหรือคนรวยที่มีปัญหาในเรื่องดังกล่าว สำหรับนอแรดจากแอฟริกาใต้จะมีราคา 100,000-200,000 บาทต่อนอแรด 1 กิโลกรัม และราคาขายต่อจะขยับไปถึง 2 ล้านบาทต่อกิโลกรัม
การค้นพบเอกสารการลักลอบค้าสัตว์ป่า ลงวันที่เดือนมีนาคมปี 2009 เป็นข้อตกลงการซื้อขายระหว่าง เครือข่ายไซสะหว่าง และบริษัท ไทยสันเอฟซี จำกัด จากประเทศเวียดนาม ระบุรายละเอียดมีสินค้ามากกว่า 100,000 รายการ แบ่งเป็นหนูจำนวน 40,000 ตัว งูเห่าจำนวน 20,000 ตัว ชิ้นส่วนแม่เบี้ยงูกว่า 10,000 ชิ้น งูจงอางจำนวน 20,000 ตัว ตัวเงินตัวทองจำนวน 20,000 ตัวและหัวเต่าบกอีกจำนวนหนึ่ง รวมมูลค่ากว่า 860,000 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ในขณะที่เจ้าหน้าที่ศุลกากรเคนยาสามารถตรวจยึดนอแรด และงาช้างกว่า 280 กิโลกรัม ซึ่งจะนำไปส่งขายต่อในประเทศโมซัมบิก ต่อมาในช่วงปลายปี 2011 สมาคมต่อต้านการใช้สัตว์ทดลองแห่งประเทศอังกฤษเข้าตรวจสอบฟาร์มของวิชัยที่ถูกทิ้งร้างในเขตชานเมืองปาคสัน ตรวจพบลิง 575 ตัวถูกขังอยู่ในกรง
กระทั่งวันที่ 6 พฤศจิกายน 2013 เจ้าหน้าที่แอฟริกาใต้สามารถจับกุมตัวนายจำลอง แหลมทองไทยได้สำเร็จ เขาเป็นมือขวาของนายวิชัย เขียวสะหว่าง และเป็นหนึ่งในสมาชิกอาวุโสของเครือข่ายไซสะหว่าง นายจำลองถูกตัดสินโทษจำคุกเป็นเวลา 30 ปี โดยเขายอมรับสารภาพว่าได้กระทำความผิดฐานค้านอแรดและลักลอบนำนอแรดออกจากแอฟริกาใต้ ผ่านการจ้างโสเภณี และคนรู้จักในการช่วยขนย้ายสิ่งของ ทั้งยังมีการปลอมแปลงชิ้นส่วนของสัตว์ป่าให้กลายเป็นของที่ระลึกจากแอฟริกา และส่งไปค้าในตลาดมืดแถบเอเชีย การจับกุมนายจำลองได้นำไปสู่การจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 3 คน ที่เป็นผู้ช่วยอำนวยความสะดวกในการลักลอบขนย้ายนอแรดแอฟริกาผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีนายนับบิง ลอย ชานตะวงสา สมาชิกอาวุโสของเครือข่ายไซสะหว่าง เป็นคนจ่ายค่าจ้างแก่ทั้งสามคน ในราคาคนละ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา หรือประมาณ 3 แสนบาท
ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2013 นายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ตั้งรางวัลนำจับกว่า 1 ล้านดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา แก่ผู้ที่ให้ข้อมูลจนสามารถนำไปสู่การกวาดล้างเครือข่ายไซสะหว่างได้ ซึ่งในปัจจุบันนายวิชัย เขียวสะหว่าง ได้ถูกนำตัวขึ้นศาลในเมืองโยฮันเนสเบิร์ก และศาลตัดสินโทษจำคุกเป็นเวลา 40 ปี ในข้อหาลักลอบค้านอแรดในตลาดมืด
นายวิชัย เขียวสะหว่าง ถือเป็นอาชญากรตัวฉกาจที่หลายประเทศทั่วโลกต่างต้องการตัว ปัจจุบันแม้เขาจะถูกจับกุมตัวและเข้าไปชดใช้ความผิดในคุกเป็นเวลากว่า 40 ปี แต่เครือข่ายไซสะหว่างของเขายังคงลักลอบค้าสัตว์ป่าอยู่อย่างต่อเนื่อง การก่ออาชญากรรมของนายวิชัยนับเป็นตัวอย่างที่ดีในการแสดงให้เห็นการทุจริตภายในองค์กร การติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐ การแสวงหาผลประโยชน์ของนักการเมืองและเมินเฉยของภาครัฐต่อการกระทำที่ผิดกฎหมาย
ฐิติพงศ์ มาคง
เมษายน 2559